กระเจียว

ดอกกระเจียวกับ 6 สรรพคุณสุดจึ้ง

0 minutes, 0 seconds Read

หลายๆคนอาจจะไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินชื่อของดอกกระเจียวมาก่อน เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าเจ้าดอกกระเจียวนอกจากจะมีลักษณะของดอกที่สวยงามแล้วยังมีสรรพคุณทางยามากมายอีกด้วย ซึ่งดอกกระเจียวจัดเป็นพืชที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมานาน ลักษณะของต้นจะมีลักษณะเป็นกอ หรือเป็นพุ่ม ดอกกระเจียวจะมีสรรพคุณอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

กระเจียว1

กระเจียว

ดอกกระเจียวจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับพวกข่าและขิง คือจะมีหัวอยู่ข้างใต้ดินหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเหง้า จัดเป็นไม้ล้มลุก จะพบเจอได้มากในบริเวณภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งสายพันธุ์ของต้นกระเจียวมี 2 ชนิด คือ ต้นกระเจียวแดง และ ต้นกระเจียวขาว

กระเจียว2

กระเจียวแดง

สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแตกหน่อ พบมากตามป่าดิบทั่วไป ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และ ที่โล่งทั่วไป ลักษณะมีดังนี้
เหง้า คือ ส่วนของลำต้น ลักษณะของเหง้าเป็นทรงรี ผิวของเหง้าสีน้ำตาล เนื้อในสีขาว มีกลิ่นเฉพาะตัว และ มีรสเผ็ดร้อน เหมือนขิง
ใบกระเจียว มีลักษณะเป็นกาบ เป็นพืชใบเดี่ยว เรียงสลับ รอบๆหน่อ ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยง
ดอกกระเจียว มีลักษณเป็นช่อ ดอกรูปทรงกระบอก ก้านดอกชูออกจากปลายลำต้น กลีบดอกเป็นสีเหลือง และ สีแดง มีขน รูปรี มีขนสั้นๆ ดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม
ผลกระเจียวแดง มีลักษณะทรงไข่ ผิวของผลมีขน ลักษณะหนาแน่น ภายในมีเมล็ดคล้ายหยดน้ำ

สรรพคุณของกระเจียว สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ เหง้า ดอก หน่ออ่อน และ ดอก โดย สรรพคุณของกระเจียว มีรายละเอียด ดังนี้

  • เหง้ากระเจียว สรรพคุณช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ช่วยการขับถ่าย รักษาอาการท้องผูก ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย
  • หน่ออ่อนกระเจียว สรรพคุณช่วยสมานแผล
  • ดอกกระเจียว สรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ลดกรดในกระเพาะอาหาร รักษาอาการมดลูกอักเสบ สำหรับสตรีหลังคลอด
  • เหง้าของกระเจียว สรรพคุณช่วยแก้ปวดเมื่อย
กระเจียว3

กระเจียวขาว

จัดเป็นไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรง มีความสูงของต้นประมาณ 15-50 เซนติเมตรและอาจสูงได้ถึง 70 เซนติเมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดิน และมีกลิ่นหอม เหง้ามีลักษณะเป็นรูปไข่
สรรพคุณของกระเจียวขาว
1.เป็นยาช่วยขับลม
2.ใช้เป็นยาทารักษาแผลสดและช่วยห้ามเลือด

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *