อย่างที่รู้กันดีว่า สมุนไพร มักถูกนำมาเป็นส่วนผสมสำหรับเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงความงาม ทั้ง ครีมทาหน้า ครีมล้างหน้า โลชั้น สบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงผม ครีมบำรุงผิวรรณ กับความงาม สมุนไพร สรรพคุณช่วยบำรุงความงาม มากมาย ลักษณะของพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณ เช่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากรังสี UV ลดการอักเสบ แก้ปวด และ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อุดมด้วยสารอาหารสำคัญ เป็นแหล่งวิตามินชั้นดีจากธรรมชาติ
1.ว่านหางจระเข้
มีสรรพคุณช่วยลดการติดเชื้อ ฆ่าเชื้อ สมานแผล และยังมีส่วนกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ช่วยผลัดเซลล์ใหม่ และทำให้แผลหายเร็วขึ้น ด้วยสรรพคุณนี้เราจึงเห็นว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมในเวชสำอางและสกินแคร์หลายชนิด
ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) คือ พืชชนิดหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในประเภทพืชล้มลุก สีเขียว มีลักษณะลำต้นเป็นข้อปล้อง ใบเดี่ยว ใบหนายาวและโคนใบใหญ่ ปลายแหลม ขอบใบมีหนามห่างกันเป็นระยะ เรียงเป็นชั้น ข้างในใบเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน มีเมือกเหนียว สามารถออกดอกสีแดงอมเหลืองที่ปลายยอดได้ มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและตอนใต้ของทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่ายในดินทราย หรือในกระถางก็ได้ เป็นพืชชอบน้ำ แต่ต้องมีทางระบายน้ำได้ดี ป้องกันไม่ให้อมน้ำมากเกินไปจนรากเน่า
2. ขมิ้น หรือ ขมิ้นชัน
ขมิ้นเป็นสมุนไพรขัดผิวมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล โดยในอดีตมักจะใช้ขมิ้นขัดผิวให้ผิวขาวเนียน นั่นก็เพราะขมิ้นมีสารเคอร์คิวมินที่เป็นสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาโรคผิวหนังบางชนิด ทั้งยังช่วยให้ผิวผ่องใส ลดการงอกของขน ทำให้ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา ส่วนที่ใช้ก็คือ “เหง้า” ที่มีรสฝาดนั่นเอง โดยเหง้ามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการอักเสบ และมีฤทธิ์ในการขับน้ำดี ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดมะเร็งในตับ ช่วยบำรุงตับ นอกจากนี้ยังมีสารอาหารหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และเกลือแร่ต่าง ๆ ส่วนน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชันก็มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นจุกเสียดได้ด้วย จึงนิยมนำขมิ้นมาใช้สมานแผลในกระเพาะอาหาร ทำความสะอาดลำไส้ รักษาโรคกระเพาะอาหาร
3. มะขามเปียก
ใครที่อยากหน้าขาวใส ลดริ้วรอยด่างดำ มะขามเปียกก็มีสรรพคุณช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนัง ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้มะขามเปียกยังมีวิตามินซีสูง ช่วยปรับผิวให้ดูสวย มีสรรพคุณเป็นกรดธรรมชาติ โดยมี AHA ในปริมาณที่สามารถใช้ขัดผิวหน้า ผิวตัว หรือแม้กระทั่งจุดแห้งกร้าน ให้เนียนนุ่มและผิวขาวใสขึ้น
4.ไพล
ไพลมีสารในกลุ่มเคอร์คิวมินอยด์ สารในกลุ่มเดียวกับที่มีในขมิ้น ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวขาว ลดการอักเสบของผิว และมีสรรพคุณช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ไพล จัดเป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 0.7-1.5 เมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ในเหง้ามีน้ำมันหอมระเหย เปลือกนอกเป็นสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในมีสีเหลืองแกมเขียว ซึ่งส่วนนี้จะมีกลิ่นเฉพาะตัว หากเป็นเหง้าสดจะฉ่ำน้ำ มีรสฝาด ขื่น เอียน ร้อนซ่า แต่หากเป็นเหง้าแก่สดและแห้งจะมีรสเผ็ดเล็กน้อยตัวเหง้าจะแทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นเป็นกอ มีกาบหรือโคนใบสีเขียวเข้มหุ้นซ้อนกัน ใบเป็นใบเดี่ยวมีลักษณะเรียวแหลม โคนใบมนหรือเว้ารูปหัวใจ ใบประดับสีม่วง ดอกเป็นรูปไข่หรือยาวรี ดูคล้ายกระสวย แทงขึ้นมาจากเหง้าใต้ดิน ผลเป็นผลแห้ง รูปกลม
5.ใบบัวบก
บบัวบกจะช่วยแก้ช้ำในแล้ว ในใบบัวบกยังมีสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย ลบรอยตีนกา อีกทั้งใบบัวบกยังเป็นหนึ่งในสมุนไพรบำรุงผมให้ดกดำ แก้ผมหงอก โดยนำน้ำใบบัวบกคั้นสดมาหมักผมทิ้งไว้ 20 นาที
6. ตำลึง
ผักริมรั้วที่นำมาทำครัวก็อร่อย นำมาบำรุงความงามก็ดีไม่น้อย มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีวิตามินต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราจึงจะเห็นว่าเครื่องสำอางหลายชนิดมีสารสกัดจากตำลึงผสมอยู่ ทว่าหากใครอยากใช้ตำลึงสด ๆ มาเสริมความงาม สามารถนำตำลึงไปปั่นแล้วแยกกากมาผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วพอกหน้าเพิ่มความเต่งตึง
7. ใบสะเดา
สามารถลดสิวได้ด้วยน้ำมันสกัดเย็นจากสะเดา โดยในสะเดามีวิตามินซีอยู่พอประมาณ และยังมีเบต้าแคโรทีนอยู่มาก จึงช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ลดอาการผื่นแพ้บนผิวหนัง และรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย แต่ถ้าใครจะใช้ใบสะเดาสดก็ได้ค่ะ เพียงนำใบสะเดา 2-3 ต้นมาต้มให้เดือด พักไว้ให้เย็น จากนั้นนำสำลีชุบน้ำสะเดามาทาให้ทั่วใบหน้า หรือจะปั่นใบสะเดาต้มกับแตงกวาแล้วผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติเพื่อนำมาพอกหน้าลดความมันบนผิวหนัง
8. กะเพรา
นอกจากจะใช้ประกอบอาหารแล้ว กะเพรายังมีน้ำมันหอมระเหยจากกะเพรามีสารยูจีนอล แกมม่าคาร์โยฟิลีน และเมทิลยูจีนอล ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการเติบโตของเชื้อสิว ดังนั้นคนที่มีปัญหาสิวก็ลองใช้กะเพราเป็นตัวช่วยดู โดยเด็ดใบกะเพรา 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมาผสมกับนมสด แล้วนำมาทาให้ทั่วหน้า พอกทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกให้สะอาด
9. ขิง
ขิงมีสรรพคุณในการต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย ทั้งยังช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้าน หรือฟื้นฟูผิวที่โดนแดดเผาก็ได้ ทั้งนี้ก็เพราะขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในตัว พิสูจน์ได้จากการที่เริ่มจะเห็นขิงเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางบ้างแล้ว ไม่ว่าจะแบบโลชั่นทาผิว หรือแม้กระทั่งแชมพู ส่วนคนที่อยากใช้ขิงบำรุงผิว ลองซอยขิงให้ละเอียดแล้วนำมาผสมกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ต เสร็จแล้วก็พอกหน้า พอกผิวกาย
10. โหระพา
โหระพาช่วยต้านสิว เพราะในใบโหระพามีน้ำมันที่สกัดได้จากใบโหระพาสามารถฆ่าเชื้อสิวได้สบาย ๆ ซึ่งถ้าใครอยากลองก็นำใบโหระพาสด 1 กำมือ ไปต้มกับน้ำจนเดือด พักไว้ให้เย็น แล้วนำสำลีมาจุ่มน้ำโหระพาแล้วเช็ดเป็นโทนเนอร์