ว่านโด่ไม่รู้ล้ม ว่านที่หายากและมีสรรพคุณหลากหลาย บำรุงกำลัง ลดอาการเหนื่อยล้า บำรุงเลือดสำหรับสตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ หลายคนอาจจะไม่เคยไม่ยินชื่อของมันมาก่อน ต้นโด่ไม่รู้ล้มมีหน้าตาเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย ลักษณะของว่านโด่ไม่รู้ล้ม สรรพคุณของว่านโด่ไม่รู้ล้ม ข้อควรระวังของว่านโด่ไม่รู้ล้ม
ผลึกธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูร ซึ่งจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ต้นการบูร และพบมากที่สุดในแก่นของราก และ แก่นของต้น ส่วนในใบและยอดอ่อนของต้นการบูร ลักษณะของผลึกการบูร เป็นเกล็ด กลม ขนาดเล็ก สีขาว จับกันเป็นก้อนร่วนๆแตกง่าย หากทิ้งเอาไว้ผลึกที่มีกลิ่นหอมของการบูรจะเหิดไปหมด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณมากมาย มีอะไรบ้างไปดูกันเลย ลักษณะของต้นการบูร สรรพคุณของการบูร โทษของการบูร การใช้ประโยชน์จากการบูรมีทั้งประโยชน์และโทษ ควรระวังในการใช้ประโยชน์จากการบูร มีดังนี้
เป็นสมุนไพรไทย มีประโยชน์สำหรับบำรุงเพศ ทั้งหญิงและชาย กระตุ้นฮอร์โมนหญิง ทำให้กระชุ่มกระชวย กระทรวงสาธารณสุขของไทย จัดให้กวาวเครือขาวเป็นตัวยาชนิดหนึ่งในตำรับยาบำรุงร่างกาย ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแผนโบราณ และ ยาแผนโบราณสามัญประจำบ้าน สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ ลักษณะของกวาวเครือทอง สรรพคุณของกวาวเครือทอง บำรุงผิวพรรณ: ต้นกวาวเครือขาวมีสารสกัดที่ช่วยในการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใสและชุ่มชื่น ลดอาการอักเสบ: สารสกัดจากต้นกวาวเครือขาวมีคุณสมบัติต้านอักเสบที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เช่น อาการอักเสบของผิวหนังหรืออวัยวะภายใน สมรรถภาพทางประสาท: มีสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางประสาท ช่วยในการปรับปรุงความจำและความชัดเจนในการทำงานของสมอง บำรุงระบบทางเดินหายใจ: สารสกัดจากต้นกวาวเครือขาวช่วยลดการอักเสบและสะสมของเสมห์ในทางเดินหายใจ ช่วยในการบำรุงร่างกายให้สุขภาพดี โทษของกวาวเครือทอง ต้นกวาวเครือขาว มีความเป็นพิษหากรับประทานหรือใช้ประโยชน์ในปริมาณที่มากเกินไป โดยข้อห้ามใช้ประโยชน์จากกวาวเครือขาว ตามตำราแผนโบราณ ประกอบด้วย
สะค้านจัดเป็นสมุไพรของภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมักนำมาใช้ในอาหารและเครื่องปรุง เช่น ต้ม เพื่อให้รสชาติหอมเย็น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาและประโยชน์สำหรับสุขภาพด้วย หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อหรือไม่เคยเห็นว่าสะค้านมีสรรพคุณที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย ลักษณะต้นของสะค้าน ไม้เถาเลื้อย ลำต้นอวบอ้วนขนาดใหญ่ ทุกส่วนเกลี้ยง รูปทรงและขนาดของใบพบได้หลากหลาย เนื้อใบเหนียวและหนามาก สะค้าน เป็นพืชสกุลพริกไทย ชนิดที่เกิดในป่าหรือไม่ระบุชนิด มักมีชื่อเรียกทั่วไปว่า สะค้าน จะค้าน หรือตะค้าน ซึ่งมีการนำมาใช้ประโยชน์หลายประการ รับประทานเป็นผัก นำมาปรุงอาหาร ใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ปลูกเป็นไม้ประดับ และใช้ในพิธีกรรมต่างๆ สรรพคุณของสะค้าน
หลายคนอาจจะรู้จักชะเอมดีอยู่แล้ว ได้จะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของชะเอมไทยอยู่ด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าชะเอมนั้นมีลักษณะและหน้าตาและสรรคุณเป็นอย่างไร ลักษณะของชะเอมไทย ต้นและกิ่ง: ชะเอมเป็นพืชขนาดใหญ่ที่มีทรงพุ่มกว้างและโคนต้นที่หนา กิ่งมีลักษณะแข็งและเป็นเส้น ๆ โดยประกอบด้วยข้อย่อยหลายสีใบ: ใบชะเอมเป็นใบลูกแข็งที่มีขนาดใหญ่และใบโดยปกติจะมีจำนวนใบประมาณ 10-20 คู่ดอก: ชะเอมมีดอกสีขาวหรือสีครีมที่เรียงเป็นช่อยาว ๆ ที่ขึ้นตามกิ่งหรือยอดของต้น ดอกมีกลีบเลี้ยงสีเขียวเหลืองผลไม้: ผลชะเอมเป็นฝักยาวๆ มีลักษณะเป็นฝักหยาบที่มีเปลือกแข็ง ภายในมีเนื้อจากเนื้อเยื่อที่มีรสเปรี้ยวลักษณะทางสุขภาพ: ผลชะเอมมีรสเปรี้ยวและหวาน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในทางการแพทย์ สรรพคุณของชะเอมไทย
หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของสมุนไพรชนิดนี้มาก่อน เพราะเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างที่จะหายาก ซึ่งหน้าตาของสมุนไพรมีความคล้ายคลึงกับไม้น้ำที่เราเห็นและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากชื่อที่แปลกและเป็นเอกลักษณืแล้ว จุกโรหินียังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายอีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย ลักษณะของจุกโรหินี ลำต้น: ลำต้นของจุกโรหินีมักจะเรียวลงไปทางปลาย โดยมีลักษณะเป็นสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม ลำต้นเส้นผ่านกลางสามารถลอยผ่านสิ่งของต่าง ๆ ได้ใบ: ใบของจุกโรหินีเป็นรูปหัวใจย่นไปที่ปลายใบ มีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม ใบจะเป็นเส้นและสลับกัน มักจะมีลักษณะเป็นจุดสีเขียวแหลมบนใบดอก: ดอกของจุกโรหินีมีลักษณะเป็นดอกที่เล็กและเป็นกลุ่ม มักจะออกเป็นกลุ่มตามลำต้นมีสีพื้นหลังเป็นสีเขียวการเจริญเติบโต: จุกโรหินีมักจะเจริญเติบโตเป็นกลุ่ม มักจะมีใบลูกแข็งที่สะสมอยู่ตามลำต้น สรรพคุณทางยาของจุกโรหินี จุกโรหินี มีสรรพคุณทางยาหลากหลายโดยมีสรรพคุณ ดังต่อไปนี้