ว่านโด่ไม่รู้ล้ม ว่านที่หายากและมีสรรพคุณหลากหลาย บำรุงกำลัง ลดอาการเหนื่อยล้า บำรุงเลือดสำหรับสตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ หลายคนอาจจะไม่เคยไม่ยินชื่อของมันมาก่อน ต้นโด่ไม่รู้ล้มมีหน้าตาเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย ลักษณะของว่านโด่ไม่รู้ล้ม สรรพคุณของว่านโด่ไม่รู้ล้ม ข้อควรระวังของว่านโด่ไม่รู้ล้ม
ผลึกธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูร ซึ่งจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ต้นการบูร และพบมากที่สุดในแก่นของราก และ แก่นของต้น ส่วนในใบและยอดอ่อนของต้นการบูร ลักษณะของผลึกการบูร เป็นเกล็ด กลม ขนาดเล็ก สีขาว จับกันเป็นก้อนร่วนๆแตกง่าย หากทิ้งเอาไว้ผลึกที่มีกลิ่นหอมของการบูรจะเหิดไปหมด นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณมากมาย มีอะไรบ้างไปดูกันเลย ลักษณะของต้นการบูร สรรพคุณของการบูร โทษของการบูร การใช้ประโยชน์จากการบูรมีทั้งประโยชน์และโทษ ควรระวังในการใช้ประโยชน์จากการบูร มีดังนี้
เป็นสมุนไพรที่มีส่วนของพืชที่ใช้ในทางการแพทย์ มักใช้เป็นส่วนที่เรียกว่า “ก้าน” หรือ “ลำต้น” ของพืชในการสกัดสารสกัดหรือใช้เป็นต้นต้นก่อนที่จะเป็นดอก ส่วนของก้านพลูมีคุณสมบัติทางยาที่สำคัญและมักใช้ในการรักษาต่างๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้ว ลักษณะของก้านพลู ก้านพลูจัดเป็นไม้ต้น สูง 9-12 เมตร อาจสูงได้ถึง 20 เมตร เรือนยอดเป็นรูปกรวยคว่ำ แตกกิ่งต่ำ ลำต้นตั้งตรง เปลือกเรียบ สีเทา ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอก รูปรี หรือรูปไข่กลับแคบๆ กว้าง 8-11 ซม. ยาว 32-37 ซม. ปลายแหลมหรือเรียวแหลม สรรพคุณของก้านพลู
สะค้านจัดเป็นสมุไพรของภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมักนำมาใช้ในอาหารและเครื่องปรุง เช่น ต้ม เพื่อให้รสชาติหอมเย็น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยาและประโยชน์สำหรับสุขภาพด้วย หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อหรือไม่เคยเห็นว่าสะค้านมีสรรพคุณที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย ลักษณะต้นของสะค้าน ไม้เถาเลื้อย ลำต้นอวบอ้วนขนาดใหญ่ ทุกส่วนเกลี้ยง รูปทรงและขนาดของใบพบได้หลากหลาย เนื้อใบเหนียวและหนามาก สะค้าน เป็นพืชสกุลพริกไทย ชนิดที่เกิดในป่าหรือไม่ระบุชนิด มักมีชื่อเรียกทั่วไปว่า สะค้าน จะค้าน หรือตะค้าน ซึ่งมีการนำมาใช้ประโยชน์หลายประการ รับประทานเป็นผัก นำมาปรุงอาหาร ใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ปลูกเป็นไม้ประดับ และใช้ในพิธีกรรมต่างๆ สรรพคุณของสะค้าน
หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่ และหลายๆคนอาจจะไม่เคยเห็นสมุนไพรชนิดนี้ และเพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าทำไมสมุนไพรชนิดนี้ถึงได้เรียกว่าปลาไหลเผือก เหตุผลที่เรียกแบบนี้เพราะส่วนหัวของสมุนไพรชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายกับปลาไหลมีลักษณะยาวเป็นท่อนและ และมีสีขาวนวลเหลือกับปลาไหลเผือกนั้นเอง ลักษณะของปลาไหลเผือก ปลาไหลเผือกจัดเป็น ไม้พุ่ม หรือ ไม้ต้นขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง สูง 1-10 เมตร เปลือกสีน้ำตาล เป็นไม้ลงราก รากกลมโตสีขาวยาว กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล กิ่งก้านสั้นเป็นกระจุกที่ปลายยอดของลำต้น แตกกิ่งก้านน้อย ใบปลาไหลเผือก เป้นก้านใบออกจากลำต้นตรงส่วนปลาย เรียงหนาแน่นช่วงปลายกิ่งดอกปลาไหลเผือก ช่อแบบแยกแขนง ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง และซอกใบ เป็นช่อพวงใหญ่ ผลปลาไหลเผือก เป็นทรงกลม เป็นพวง มีประมาณ 5 ผลย่อย ทรงรี หรือ รูปไข่ สรรพคุณของปลาไหลเผือก
หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของสมุนไพรชนิดนี้มาก่อน เพราะเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างที่จะหายาก ซึ่งหน้าตาของสมุนไพรมีความคล้ายคลึงกับไม้น้ำที่เราเห็นและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากชื่อที่แปลกและเป็นเอกลักษณืแล้ว จุกโรหินียังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายอีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย ลักษณะของจุกโรหินี ลำต้น: ลำต้นของจุกโรหินีมักจะเรียวลงไปทางปลาย โดยมีลักษณะเป็นสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม ลำต้นเส้นผ่านกลางสามารถลอยผ่านสิ่งของต่าง ๆ ได้ใบ: ใบของจุกโรหินีเป็นรูปหัวใจย่นไปที่ปลายใบ มีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม ใบจะเป็นเส้นและสลับกัน มักจะมีลักษณะเป็นจุดสีเขียวแหลมบนใบดอก: ดอกของจุกโรหินีมีลักษณะเป็นดอกที่เล็กและเป็นกลุ่ม มักจะออกเป็นกลุ่มตามลำต้นมีสีพื้นหลังเป็นสีเขียวการเจริญเติบโต: จุกโรหินีมักจะเจริญเติบโตเป็นกลุ่ม มักจะมีใบลูกแข็งที่สะสมอยู่ตามลำต้น สรรพคุณทางยาของจุกโรหินี จุกโรหินี มีสรรพคุณทางยาหลากหลายโดยมีสรรพคุณ ดังต่อไปนี้